
หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวิชากายภาพบำบัดคลินิก
เสริมสร้างและเพิ่มพูนสมรรถนะของมหาบัณฑิต ให้สามารถประยุกต์ความรู้ ทักษะคลินิกเฉพาะทางและเทคนิคขั้นสูงใน 7 สาขาวิชา ได้แก่ ระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ, ระบบประสาท, ระบบหายใจ หัวใจและหลอดเลือด, เด็ก, ผู้สูงอายุ, การกีฬา และชุมชนและการส่งเสริมสุขภาพทั้งนี้หลักสูตรเน้นสร้างงานวิจัยทางคลินิก เพื่อให้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และสามารถจัดการภาวะทางระบบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานทางกายภาพบำบัดได้




หลักสูตรต่าง ๆ
- ข้อมูลหลักสูตร
- การสมัครเข้าศึกษา
- MAP-C Microcredit
- งานวิจัยทางคลินิก
- คำถามที่พบบ่อย (FQAs)
- คำอธิบายรายวิชา
ชื่อหลักสูตร : หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชากายภาพบำบัดคลินิก
ชื่อปริญญา : วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (กายภาพบำบัดคลินิก)
ปรัชญา ความสำคัญของหลักสูตร : เสริมสร้างและเพิ่มพูนสมรรถนะของมหาบัณฑิตให้สามารถประยุกต์ความรู้ และทักษะด้านวิชาการ การวิจัย ควบคู่คุณธรรม เพื่อให้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและสามารถจัดการภาวะทางระบบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานทางกายภาพบำบัดในทุกช่วงวัย
วัตถุประสงค์ของหลักสูตร
เมื่อสิ้นสุดการเรียนการสอนตามหลักสูตรแล้วมหาบัณฑิตจะมีคุณลักษณะตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับบัณฑิตศึกษา
- มีคุณธรรม จริยธรรมวิชาชีพและจริยธรรมการวิจัย การจัดการปัญหาทางคุณธรรมจริยธรรมที่เผชิญได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
- มีความรู้ในศาสตร์ทางกายภาพบำบัดและศาสตร์ที่เกี่ยวข้องโดยอิงหลักฐานเชิงประจักษ์อย่างเป็นระบบและทันสมัย สามารถอธิบายแนวทางทำงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาวิชาการและวิชาชีพ
- สามารถใช้ทักษะวิชาชีพกายภาพบำบัดเฉพาะทางหรือเทคนิคขั้นสูง เพื่อให้บริการแก่ผู้ใช้บริการได้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ
- มีภาวะผู้นำทางวิชาการและวิชาชีพ รับผิดชอบและสร้างปฏิสัมพันธ์ในการดำเนินงานของตนเองและกลุ่ม ให้สัมฤทธิ์ผลอย่างมีประสิทธิภาพ
- มีทักษะการใช้เทคโนโลยีในการสืบค้น ติดตามความก้าวหน้า วิเคราะห์ทางสถิติขั้นสูงและถ่ายทอดผลงานวิชาการและงานวิจัยด้วยบทความและการนำเสนอได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผลการเรียนรู้ที่คาดหวังของหลักสูตร (Expected Learning Outcomes; ELOs)
- ELO1 ประยุกต์ความรู้ในศาสตร์ทางกายภาพบำบัด ศาสตร์ที่เกี่ยวข้องทางวิชาชีพกายภาพบำบัด เพื่อวางแผนจัดการปัญหาที่ซับซ้อนเฉพาะสาขา ตามคุณธรรม จริยธรรมทางวิชาการและวิชาชีพ
- ELO2 ใช้ทักษะทางคลินิกเฉพาะทางและเทคนิคขั้นสูง โดยอ้างอิงหลักฐานเชิงประจักษ์ ในการจัดการทางกายภาพบำบัดเฉพาะสาขา ตามมาตรฐานและจรรยาบรรณวิชาชีพ
- ELO3 สร้างงานวิจัยหรือนวัตกรรมทางคลินิกที่มีคุณภาพเกี่ยวกับศาสตร์กายภาพบำบัดตามจริยธรรมการวิจัย เพื่อนำเสนอและเผยแพร่ผลงานวิชาการ
- ELO4 แสดงภาวะผู้นำทางวิชาการและวิชาชีพ สามารถสื่อสารและสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ELO5 ใช้เทคโนโลยีในการสืบค้นและสถิติการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการศึกษาวิจัย สามารถถ่ายทอดผลงานทางวิชาการและวิจัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ELO6 มีีการติดตามความก้าวหน้าทางวิชาการ เพื่อพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
โครงสร้างหลักสูตร
แผน ก แบบ ก 2 | แผน ข | |||
---|---|---|---|---|
หมวดวิชาบังคับ | 19 | หน่วยกิต | 19 | หน่วยกิต |
หมวดวิชาเลือก ไม่น้อยกว่า | 5 | หน่วยกิต | 11 | หน่วยกิต |
วิทยานิพนธ์ | 12 | หน่วยกิต | - | หน่วยกิต |
สารนิพนธ์ | - | หน่วยกิต | 6 | หน่วยกิต |
รวมไม่น้อยกว่า | 36 | หน่วยกิต | 36 | หน่วยกิต |
แผนการศึกษา : แผน ก แบบ ก 2
แผนการศึกษา : แผน ข
ผู้มีสิทธิ์เข้าศึกษาในแผน ก แบบ ก 2
- สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า หรือคาดว่าจะสำเร็จการศึกษาก่อนวันเปิดภาคการศึกษาในหลักสูตรระดับปริญญาตรีในสาขาวิชากายภาพบำบัดจากสถาบันอุดมศึกษาที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษารับรอง
- ได้แต้มระดับคะแนนเฉลี่ยสะสม ไม่ต่ำกว่า 2.50 หรือเทียบเท่า
- มีผลคะแนนภาษาอังกฤษผ่านตามเกณฑ์ของบัณฑิตวิทยาลัย
- เป็นผู้ที่มีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพกายภาพบำบัด หรือคาดว่าจะได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพกายภาพบำบัด ภายในภาคการศึกษาที่ 1 ของหลักสูตรปริญญาโท
ผู้มีสิทธิ์เข้าศึกษาในแผน ข
- สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า หรือคาดว่าจะสำเร็จการศึกษาก่อนวันเปิดภาคการศึกษาในหลักสูตรระดับปริญญาตรีในสาขาวิชากายภาพบำบัดจากสถาบันอุดมศึกษาที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษารับรอง
- ได้แต้มระดับคะแนนเฉลี่ยสะสม ไม่ต่ำกว่า 2.50 หรือเทียบเท่า
- มีผลคะแนนภาษาอังกฤษผ่านตามเกณฑ์ของบัณฑิตวิทยาลัย
- เป็นผู้ที่มีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพกายภาพบำบัด หรือคาดว่าจะได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพกายภาพบำบัด ภายในภาคการศึกษาที่ 1 ของหลักสูตรปริญญาโท
- มีประสบการณ์การทำงานทางกายภาพบำบัดในสาขาเฉพาะทางที่เลือกศึกษา ไม่น้อยกว่า 500 ชั่วโมง
- ผู้ที่มีคุณสมบัติต่างจากที่กำหนดในข้อ 2) ถึงข้อ 5) อาจได้รับการพิจารณาให้สมัครเข้ารับการคัดเลือกเข้าศึกษาตามดุลยพินิจของคณะกรรมการบริหารหลักสูตรและคณบดี
กำหนดการรับสมัครและกำหนดการ ปีการศึกษา 2566
กำหนดการรับสมัครและกำหนดการ ปีการศึกษา 2566 | กำหนดการรับสมัคร | ||
---|---|---|---|
รอบที่ 1 | รอบที่ 2 | รอบที่ 3 | |
เปิดรับสมัคร | 1 ธ.ค. 65 – 15 พ.ค. 66 | ||
ตัดรอบพิจารณาคัดเลือก (เฉพาะผู้ที่ชำระเงินค่าสมัครแล้ว) | 31 ม.ค. 66 | 31 มี.ค. 66 | 15 พ.ค. 66 |
ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบและสถานที่สอบ | 7 ก.พ. 66 | 8 เม.ย. 66 | 23 พ.ค. 66 |
ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าศึกษา | 24 ก.พ. 66 | 28 เม.ย. 66 | 8 มิ.ย. 66 |
รายงานตัวเข้าศึกษาและชำระค่าขึ้นทะเบียนนักศึกษาใหม่ | 24 ก.พ. – 2 มี.ค. 66 | 28 เม.ย. – 4 พ.ค. 66 | 8 มิ.ย. – 13 มิ.ย. 66 |
วันสุดท้ายของการรับหลักฐานสำเร็จการศึกษาฉบับจริง | 7 มี.ค. 66 | 8 พ.ค. 66 | 16 มิ.ย. 66 |
ขั้นตอนการรับสมัครเข้าศึกษาในหลักสูตร
- สามารถสมัครเข้าศึกษาได้ที่
- ลงทะเบียนสมัครเข้าศึกษาก่อนเข้าสู่ระบบการรับสมัคร
- กรอกใบสมัครออนไลน์ให้ถูกต้อง ครบถ้วนและส่งข้อมูลผ่านระบบรับสมัครตามกำหนดการรับสมัคร
การพิจารณาเพื่อเข้าศึกษาในหลักสูตร
- พิจารณาคะแนนภาษาอังกฤษ โดยผู้สมัครเข้าศึกษาต้องมีผลการสอบความรู้ภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่งผ่านเกณฑ์มาตราฐานความรู้ภาษาอังกฤษขั้นต่ำ ตามประกาศของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล สามารถตรวจสอบเกณฑ์คะแนนภาษาอังกฤษได้ที่นี่
- สอบสัมภาษณ์ โดยกรรมการหลักสูตรและอาจารย์ประจำสาขา โดยเนื้อหาที่สัมภาษณ์ ประกอบด้วย ความรู้พื้นฐานทางกายภาพบำบัด ทักษะทางคลินิก ทักษะทางการวิจัยและความสนใจเกี่ยวกับงานวิจัย
- หากผู้สมัครมีคุณสมบัติต่างจากที่กำหนดในข้อ 1) อาจได้รับการพิจารณาคัดเลือกให้เข้าศึกษาตามดุลยพินิจของคณะกรรมการบริหารหลักสูตรและคณบดีบัณฑิตวิทยาลัย
โครงการ Mahidol Apprenticeship Program Curriculum (MAP-C)
เป็นรูปแบบการจัดการศึกษาของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล ที่เปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไป และผู้สนใจเข้าศึกษา เพื่อต่อยอดความรู้ และพัฒนาทักษะที่จำเป็นในการปฏิบัติงาน โดยการเปิดรายวิชาของหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา ซึ่งผู้เรียนสามารถนำรายวิชามาขอเทียบโอนหน่วยกิต เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาต่อในระดับบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดลได้
รายวิชาของหลักสูตรที่เปิดในรูปแบบ MAP-C เหมาะสำหรับ
- นักกายภาพบำบัดที่ต้องการสะสมหน่วยกิตเพื่อใช้ศึกษาต่อในหลักสูตร ลงทะเบียนเรียนแบบ credit (ต้องการเก็บหน่วยกิตและสอบเพื่อวัดผลการเรียนรู้)
- นักกายภาพบำบัดที่สนใจเพิ่มพูนความรู้และทักษะ ลงทะเบียนเรียนแบบ audit (ไม่ต้องการเก็บหน่วยกิตและไม่ต้องสอบเพื่อวัดผลการเรียนรู้)
รายวิชา MAP-C ของหลักสูตร ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566
รายวิชาบังคับ |
---|
|
รายวิชาเลือกสาขากายภาพบำบัดระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ |
|
รายวิชาเลือกกายภาพบำบัดระบบประสาท |
|
รายวิชาเลือกกายภาพบำบัดระบบหายใจ หัวใจและหลอดเลือด |
|
รายวิชาเลือกสาขากายภาพบำบัดทางการกีฬา |
|
อัตราค่าลงทะเบียน หน่วยกิตละ 1,800 บาท
สมัครเข้าศึกษา
ดาวน์โหลด หนังสือเชิญเข้าศึกษารายวิชาของหลักสูตรในรูปแบบ MAP-C ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566
การเก็บงานวิจัยทางคลินิก
หลักสูตรเน้นการสร้างงานวิจัยทางคลินิกเฉพาะทาง โดยใช้ปัญหาที่พบประจำในงานกายภาพบำบัด นำมาเป็นหัวข้องานวิจัย เพื่อตอบปัญหาทางคลินิก ตลอดจนนำมาใช้ในการปรับปรุงงานกายภาพบำบัดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการปัญหาและเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้รับบริการ รูปแบบของงานวิจัยในหลักสูตรมีดังนี้
- Cross-sectional study
- Experimental study
- Systematic and meta-analysis review
- Case report and case series or case study
หมายเหต แผนการศึกษา ก 2 และ แผน ข มีรูปแบบงานวิจัยที่แตกต่างกันตามระเบียบของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล
Q: หลักสูตรปริญญาโท สาขากายภาพบำบัด หลักสูตรนานาชาติ ต่างจากหลักสูตรปริญญาโท สาขากายภาพบำบัดคลินิกอย่างไร
A: ปริญญาโท สาขากายภาพบำบัด หลักสูตรนานาชาติ เป็นหลักสูตรที่ใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนการสอน เน้นเนื้อหาวิชาการทางกายภาพบำบัดที่ทันสมัยและเน้นการสร้างงานวิจัยเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการเรียนรู้การทำงานวิจัย ตอบข้อสงสัยด้วยงานวิจัย ตลอดจนได้โอกาสเรียนรู้ร่วมกับนักกายภาพบำบัดจากหลากหลายประเทศ ก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่จะมีขึ้นกับงานกายภาพบำบัดในอนาคต
ขณะที่หลักสูตรปริญญาโท สาขากายภาพบำบัดคลินิก เป็นหลักสูตรที่ใช้ภาษาไทยในการเรียนการสอน เน้นความรู้ ทักษะคลินิกเฉพาะทางและเทคนิคขั้นสูงใน 7 สาขาวิชาเฉพาะทางกายภาพบำบัด และมีการสร้างงานวิจัยเพื่อตอบปัญหาทางคลินิก ผู้เข้าศึกษาในหลักสูตรปริญญาโท สาขากายภาพบำบัดคลินิก ต้องเป็นนักกายภาพบำบัดที่มีใบประกอบวิชาชีพของกายภาพบำบัดในประเทศไทยเท่านั้น
Q: หลักสูตรปริญญาโท สาขากายภาพบำบัดคลินิก ต่างจากหลักสูตรประกาศนียบัตร สาขากายภาพบำบัดคลินิก อย่างไร
A: หลักสูตรปริญญาโท สาขากายภาพบำบัดคลินิก เป็นหลักสูตรที่เน้นความรู้ ทักษะคลินิกเฉพาะทางและเทคนิคขั้นสูงใน 7 สาขาวิชาเฉพาะทางกายภาพบำบัดเช่นเดียวกับหลักสูตรประกาศนียบัตร สาขากายภาพบำบัดคลินิก แต่มีข้อแตกต่างที่ชัดเจนคือ หลักสูตรปริญญาโท สาขากายภาพบำบัดคลินิก มีการทำงานวิจัยเพื่อตอบปัญหาทางคลินิก ซึ่งจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการเรียนรู้ทักษะและกระบวนการวิจัยทางคลินิก เพื่อพัฒนางานประจำ และ/หรือเพื่อปรับคุณวุฒิ ขณะที่หลักสูตรประกาศนียบัตร สาขากายภาพบำบัดคลินิก เน้นการทำงานทางคลินิกและการเป็นผู้ประกอบการ
Q: เรียนป.บัณฑิตก่อนแล้วต่อโท คลินิก ได้หรือไม่
A: เมื่อเรียนจบจากหลักสูตรประกาศนียบัตร สาขากายภาพบำบัดคลินิกสามารถเรียนต่อปริญญาโท สาขากายภาพบำบัดคลินิกได้ โดยการสมัครเข้าเรียนตามรอบปีการศึกษา ผ่านทางบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล โดยสามารถเทียบโอนหน่วยกิตในรายวิชาที่มีผลการเรียนรู้คล้ายกันได้ไม่เกิน 40% ของหน่วยกิตทั้งหมด และต้องเทียบโอนไม่เกิน 5 ปีหลังจากจบการศึกษา ซึ่งการเทียบโอนหน่วยกิตในรายวิชาที่มีผลการเรียนรู้คล้ายกันจะต้องได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการบริหารหลักสูตรปริญญาโท สาขากายภาพบำบัดคลินิก
Q: ความแตกต่างระหว่างแผนการศึกษาแบบ ก2 และ แผน ข
แผน ก แบบ ก 2 | แผน ข | |||
---|---|---|---|---|
หมวดวิชาบังคับ | 19 | หน่วยกิต | 19 | หน่วยกิต |
หมวดวิชาเลือก ไม่น้อยกว่า | 5 | หน่วยกิต | 11 | หน่วยกิต |
วิทยานิพนธ์ | 12 | หน่วยกิต | - | หน่วยกิต |
สารนิพนธ์ | - | หน่วยกิต | 6 | หน่วยกิต |
รวมไม่น้อยกว่า | 36 | หน่วยกิต | 36 | หน่วยกิต |
จากโครงสร้างหลักสูตรจะเห็นว่า แผนการศึกษาแบบ ก2 จะเน้นไปที่การวิทยานิพนธ์ ซึ่งมี 12 หน่วยกิต ในขณะที่แผนการศึกษาแบบ ข จะเน้นไปที่วิชาเรียน ซึ่งมีวิชาเลือก ไม่น้อยกว่า 11 หน่วยกิต และมีการทำสารนิพนธ์ ซึ่งมี 6 หน่วยกิต โดยสามารถศึกษาความแตกต่างข้อวิทยานิพนธ์และสารนิพนธ์เพิ่มเติมได้ที่ http://www.grad.mahidol.ac.th/thesis/different-th.php อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 แผนการศึกษา มีรายวิชาฝึกปฏิบัติงานทางคลินิกเฉพาะทาง 6 หน่วยกิต เพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้และมีประสบการณ์ทางคลินิก
Q: หากทำงานมาแล้ว ต้องฝึกปฏิบัติงานทางคลินิกให้ครบ 500 ชั่วโมง หรือไม่
A: ไม่จำเป็นฝึกงาน แต่ต้องมีใบรับรองประสบการณ์การทำงานในสาขาเฉพาะทางที่เลือกศึกษาจากหน่วยงานที่ทำงาน ไม่น้อยกว่า 500 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามอาจมีคำแนะนำให้ฝึกงานเพิ่มเติมได้จากคณะกรรมการสอบสัมภาษณ์
Q: ฝึกปฏิบัติงานทางคลินิก 500 ชั่วโมง ที่ไหนได้บ้าง
A: สามารถฝึกงานได้ที่คลินิก โรงพยาบาล หรือสถานประกอบการที่มีการบริการทางกายภาพบำบัดเฉพาะทางที่เลือกศึกษา ทั้งนี้ผู้ได้รับการคัดเลือกเข้ารับศึกษาในหลักสูตร สามารถทำเรื่องเพื่อขอฝึกปฏิบัติงานทางคลินิกที่ศูนย์กายภาพบำบัด คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล แต่อย่างไรก็ตาม ต้องได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการบริหารศูนย์กายภาพบำบัด คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล
Q: เนื้อหาและความรู้ ที่ควรทบทวนมาก่อนเริ่มเรียน
A: ความรู้ทางด้านกายวิภาคศาสตร์ สรีรวิทยา พยาธิสรีรวิทยา ชีวกลศาสตร์ และทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการสืบค้น ทำรายงาน และนำเสนอ
Q: ทักษะภาษาอังกฤษ มีความจำเป็นในการเรียนปริญญาโท สาขากายภาพบำบัดคลินิกที่เป็นหลักสูตรไทยหรือไม่
A: ทักษะภาษาอังกฤษมีความจำเป็น เนื่องจาก รูปแบบการเรียนจะต้องการค้นคว้าและอ่านบทความงานวิจัยที่เป็นภาษอังกฤษ และมีการนำเสนอเป็นภาษาอังกฤษในบางรายวิชา อีกทั้งยังใช้ภาษาอังกฤษในเล่มวิทยานิพนธ์หรือสารนิพนธ์ ทั้งนี้หลักสูตรมีรายวิชาภาษาอังกฤษสำหรับนักกายภาพบำบัดเป็นรายวิชาเลือกให้ลงเรียนเพื่อเพิ่มพูนทักษะภาษาอังกฤษระหว่างเรียนได้
Q: หากมีผลการทดสอบภาษาอังกฤษไม่เป็นไปตามเกณฑ์มาตราฐานความรู้ภาษาอังกฤษสำหรับสำเร็จการศึกษา จะต้องทำอย่างไรบ้าง
A: นักศึกษาที่มีผลการทดสอบภาษาอังกฤษไม่เป็นไปในเกณฑ์ที่บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดลกำหนด สามารถเลือกทดสอบความรู้ภาษาอังกฤษจนกว่าจะผ่านเกณฑ์มาตราฐานความรู้ภาษาอังกฤษ หรือลงทะเบียนเรียนรายวิชาภาษาอังกฤษที่บัณฑิตวิทยาลัยกำหนดให้ และสอบผ่านรายวิชาดังกล่าวก่อนการขอสอบวิทยานิพนธ์หรือสารนิพนธ์ โดยสามารถดูรายวิชาที่ต้องลงทะเบียนเรียนได้ที่ https://graduate.mahidol.ac.th/download/current-student/language-center/EnglishCompetenceStandards2020-th.pdf
Q: ทุนและการทำงานเสริมนอกเวลาเรียน
A: ทุนสำหรับนักศึกษา มีดังนี้ ทุนเฉลิมพระเกียรติ 60 ปี ครองราชย์สมบัติ, ทุนผู้ช่วยสอน (TA), ทุนผู้ช่วยวิจัย (RA) และทุนอื่นๆ จากบัณฑิตวิทยาลัย สามารถดูรายละเอียดทุนได้ที่ https://graduate.mahidol.ac.th/thai/?p=scholarship
ในระหว่างที่กำลังศึกษาอยู่ในหลักสูตร นักศึกษาสามารถทำงานนอกเวลาในสถานประกอบการกายภาพบำบัดต่างๆ ได้ หรือทำงานนอกเวลา (part time) ที่ศูนย์กายภาพบำบัด คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดลได้ เมื่อนักศึกษาขึ้นชั้นปีที่ 2 ซึ่งต้องทำเรื่องเพื่อขอปฏิบัติงานนอกเวลาที่ศูนย์กายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล โดยจะได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการบริหารศูนย์กายภาพบำบัด
Q: หากลงเรียนในรูปแบบ MAP-C หรือ Microcredit มาแล้ว สามารถเก็บผลการศึกษาไว้ได้กี่ปีเพื่อจะนำมาเทียบโอนเมื่อเข้าศึกษาต่อในหลักสูตร
A: สามารถนำผลการศึกษาในรูปแบบ MAP-C และ Microcredit มาเทียบโอนได้ภายใน 5 ปี ตามวงรอบการปรับปรุงหลักสูตร เช่น หลักสูตรปริญญาโท สาขากายภาพบำบัดคลินิก ปรับปรุงปี 2564 หากลงเรียนในรูปแบบ MAP-C หรือ Microcredit สามารถเก็บผลการศึกษามาใช้สำหรับเทียบโอนเข้าศึกษาได้ถึงปีการศึกษา 2568
Q: ประมาณการค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตรปริญญาโท สาขากายภาพบำบัดคลินิก
A: แผนการศึกษา ก2
รวมประมาณการค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตร 111,200 บาท
*ประมาณการค่าใช้จ่ายตามแผนการศึกษาของหลักสูตรในระยะเวลาการศึกษา 2 ปีการศึกษา ทั้งนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าธรรมเนียมบางประเภท
**ไม่รวมค่าวิจัยเพื่อทำวิทยานิพนธ์
A: แผนการศึกษา ข
รวมประมาณการค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตร 110,100 บาท
*ประมาณการค่าใช้จ่ายตามแผนการศึกษาของหลักสูตรในระยะเวลาการศึกษา 2 ปีการศึกษา ทั้งนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าธรรมเนียมบางประเภท
**ไม่รวมค่าวิจัยเพื่อทำวิทยานิพนธ์
อาจารย์ประจำหลักสูตร
- ผศ.ดร.กภ. ทิพย์วดี บรรพระจันทร์ (ประธานหลักสูตร)
- รศ.ดร.กภ. ประเสริฐ สกุลศรีประเสริฐ
- รศ.ดร.กภ. พีร์มงคล วัฒนานนท์
- รศ.ดร.กภ. มัณฑนา วงศ์ศิรินวรัตน์
- รศ.ดร.กภ. สุนีย์ บวรสุนทรชัย
- รศ.ดร.กภ. จารุกูล ตรีไตรลักษณะ
- รศ.ดร.กภ. ชุติมา ชลายนเดชะ
- รศ.ดร.กภ. รุ่งทิวา วัจฉละฐิติ
- รศ.ดร.กภ. วรรธนะ ชลายนเดชะ
- รศ.ดร.กภ. วิมลวรรณ เหียงแก้ว
- ผศ.ดร.กภ. จตุพร สุทธิวงษ์
- ผศ.ดร.กภ. คมศักดิ์ สินสุรินทร์
- ผศ.ดร.กภ. นันทินี นวลนิ่ม
- ผศ.ดร.กภ. คีรินท์ เมฆโหรา
- ผศ.ดร.กภ. ระวีวรรณ เล็กสกุลไชย
- ผศ.ดร.กภ. วนาลี กล่อมใจ
- ผศ.ดร.กภ. วรินทร์ กฤตยาเกียรณ
- ผศ.ดร.กบ. ศุภลักษณ์ เข็มทอง
- รศ.ดร.กภ. สายพิณ ประเสริฐสุขดี
- ผศ.ดร.กภ. เพชรรัตน์ ภูอนันตานนท์
- ผศ.ดร.กภ. ภครตี ชัยวัฒน์
- ผศ.ดร.กภ. ผกามาศ พิริยะประสาธน์
- ผศ.ดร.กบ. พีรเดช ธิจันทร์เปียง
- อ.ดร.กภ. เฟื่องฟ้า ขอบคุณ
- อ.ดร.กภ. รัชนก ไกรวงศ์
- อ.ดร.กภ. วรรณเพ็ญ จันทร์ศิรินุเคราะห์
- ผศ.ดร.กภ. เวทสินี แก้วขันตี
- อ.ดร.กภ. สิริกาญจน์ สมประสงค์
- อ.ดร.กภ. สุธาสินี ทองอ่อน
- อ.ดร.กบ. สุรชาต ทองชุมสิน
- อ.ดร.กภ. อัมพร นันทาภรณ์ศักดิ์
- อ.ดร.กภ. เบญจพร เอนกแสน
- อ.ดร.กภ. จุฑามาศ สุระพงษ์ชัย