edu_msc_ptclinic

ผศ.ดร.ทิพย์วดี บรรพระจันทร์

ประธานหลักสูตร

024415450 #20601


tipwadee.bun@mahidol.ac.th

อ.ดร.กภ. เบญจพร เอนกแสน

เลขาหลักสูตร

024415450 #21101


benchaporn.ane@mahidol.ac.th

น.ส.อารีรัตน์ งามขำ

เจ้าหน้าที่ประจำหลักสูตร

024415450 #20205


areerat.ngm@mahidol.ac.th

น.ส.สุทธิวรรณ เหมือนโพธิ์

เจ้าหน้าที่ประจำหลักสูตร

024415450 #20207


suttiwan.mue@mahidol.ac.th

ชื่อหลักสูตร : หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชากายภาพบำบัดคลินิก

ชื่อปริญญา : วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (กายภาพบำบัดคลินิก)

ปรัชญา ความสำคัญของหลักสูตร : เสริมสร้างและเพิ่มพูนสมรรถนะของมหาบัณฑิตให้สามารถประยุกต์ความรู้ และทักษะด้านวิชาการ การวิจัย ควบคู่คุณธรรม เพื่อให้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและสามารถจัดการภาวะทางระบบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานทางกายภาพบำบัดในทุกช่วงวัย

วัตถุประสงค์ของหลักสูตร

เมื่อสิ้นสุดการเรียนการสอนตามหลักสูตรแล้วมหาบัณฑิตจะมีคุณลักษณะตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับบัณฑิตศึกษา

  • มีคุณธรรม จริยธรรมวิชาชีพและจริยธรรมการวิจัย การจัดการปัญหาทางคุณธรรมจริยธรรมที่เผชิญได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
  • มีความรู้ในศาสตร์ทางกายภาพบำบัดและศาสตร์ที่เกี่ยวข้องโดยอิงหลักฐานเชิงประจักษ์อย่างเป็นระบบและทันสมัย สามารถอธิบายแนวทางทำงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาวิชาการและวิชาชีพ
  • สามารถใช้ทักษะวิชาชีพกายภาพบำบัดเฉพาะทางหรือเทคนิคขั้นสูง เพื่อให้บริการแก่ผู้ใช้บริการได้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ
  • มีภาวะผู้นำทางวิชาการและวิชาชีพ รับผิดชอบและสร้างปฏิสัมพันธ์ในการดำเนินงานของตนเองและกลุ่ม ให้สัมฤทธิ์ผลอย่างมีประสิทธิภาพ
  • มีทักษะการใช้เทคโนโลยีในการสืบค้น ติดตามความก้าวหน้า วิเคราะห์ทางสถิติขั้นสูงและถ่ายทอดผลงานวิชาการและงานวิจัยด้วยบทความและการนำเสนอได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผลการเรียนรู้ที่คาดหวังของหลักสูตร (Expected Learning Outcomes; ELOs)
  • ELO1 ประยุกต์ความรู้ในศาสตร์ทางกายภาพบำบัด ศาสตร์ที่เกี่ยวข้องทางวิชาชีพกายภาพบำบัด เพื่อวางแผนจัดการปัญหาที่ซับซ้อนเฉพาะสาขา ตามคุณธรรม จริยธรรมทางวิชาการและวิชาชีพ
  • ELO2 ใช้ทักษะทางคลินิกเฉพาะทางและเทคนิคขั้นสูง โดยอ้างอิงหลักฐานเชิงประจักษ์ ในการจัดการทางกายภาพบำบัดเฉพาะสาขา ตามมาตรฐานและจรรยาบรรณวิชาชีพ
  • ELO3 สร้างงานวิจัยหรือนวัตกรรมทางคลินิกที่มีคุณภาพเกี่ยวกับศาสตร์กายภาพบำบัดตามจริยธรรมการวิจัย เพื่อนำเสนอและเผยแพร่ผลงานวิชาการ
  • ELO4 แสดงภาวะผู้นำทางวิชาการและวิชาชีพ สามารถสื่อสารและสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ELO5 ใช้เทคโนโลยีในการสืบค้นและสถิติการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการศึกษาวิจัย สามารถถ่ายทอดผลงานทางวิชาการและวิจัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ELO6 มีีการติดตามความก้าวหน้าทางวิชาการ เพื่อพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
โครงสร้างหลักสูตร
แผน ก แบบ ก 2 แผน ข
หมวดวิชาบังคับ 19 หน่วยกิต 19 หน่วยกิต
หมวดวิชาเลือก ไม่น้อยกว่า 5 หน่วยกิต 11 หน่วยกิต
วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต - หน่วยกิต
สารนิพนธ์ - หน่วยกิต 6 หน่วยกิต
รวมไม่น้อยกว่า 36 หน่วยกิต 36 หน่วยกิต
แผนการศึกษา : แผน ก แบบ ก 2

แผนการศึกษา : แผน ข

ผู้มีสิทธิ์เข้าศึกษาในแผน ก แบบ ก 2
  • สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า หรือคาดว่าจะสำเร็จการศึกษาก่อนวันเปิดภาคการศึกษาในหลักสูตรระดับปริญญาตรีในสาขาวิชากายภาพบำบัดจากสถาบันอุดมศึกษาที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษารับรอง
  • ได้แต้มระดับคะแนนเฉลี่ยสะสม ไม่ต่ำกว่า 2.50 หรือเทียบเท่า
  • มีผลคะแนนภาษาอังกฤษผ่านตามเกณฑ์ของบัณฑิตวิทยาลัย
  • เป็นผู้ที่มีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพกายภาพบำบัด หรือคาดว่าจะได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพกายภาพบำบัด ภายในภาคการศึกษาที่ 1 ของหลักสูตรปริญญาโท
ผู้มีสิทธิ์เข้าศึกษาในแผน ข
  • สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า หรือคาดว่าจะสำเร็จการศึกษาก่อนวันเปิดภาคการศึกษาในหลักสูตรระดับปริญญาตรีในสาขาวิชากายภาพบำบัดจากสถาบันอุดมศึกษาที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษารับรอง
  • ได้แต้มระดับคะแนนเฉลี่ยสะสม ไม่ต่ำกว่า 2.50 หรือเทียบเท่า
  • มีผลคะแนนภาษาอังกฤษผ่านตามเกณฑ์ของบัณฑิตวิทยาลัย
  • เป็นผู้ที่มีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพกายภาพบำบัด หรือคาดว่าจะได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพกายภาพบำบัด ภายในภาคการศึกษาที่ 1 ของหลักสูตรปริญญาโท
  • มีประสบการณ์การทำงานทางกายภาพบำบัดในสาขาเฉพาะทางที่เลือกศึกษา ไม่น้อยกว่า 500 ชั่วโมง
  • ผู้ที่มีคุณสมบัติต่างจากที่กำหนดในข้อ 2) ถึงข้อ 5) อาจได้รับการพิจารณาให้สมัครเข้ารับการคัดเลือกเข้าศึกษาตามดุลยพินิจของคณะกรรมการบริหารหลักสูตรและคณบดี
กำหนดการรับสมัครและกำหนดการ ปีการศึกษา 2566
กำหนดการรับสมัครและกำหนดการ ปีการศึกษา 2566 กำหนดการรับสมัคร
รอบที่ 1 รอบที่ 2 รอบที่ 3
เปิดรับสมัคร 1 ธ.ค. 65 – 15 พ.ค. 66
ตัดรอบพิจารณาคัดเลือก (เฉพาะผู้ที่ชำระเงินค่าสมัครแล้ว) 31 ม.ค. 66 31 มี.ค. 66 15 พ.ค. 66
ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบและสถานที่สอบ 7 ก.พ. 66 8 เม.ย. 66 23 พ.ค. 66
ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าศึกษา 24 ก.พ. 66 28 เม.ย. 66 8 มิ.ย. 66
รายงานตัวเข้าศึกษาและชำระค่าขึ้นทะเบียนนักศึกษาใหม่ 24 ก.พ. – 2 มี.ค. 66 28 เม.ย. – 4 พ.ค. 66 8 มิ.ย. – 13 มิ.ย. 66
วันสุดท้ายของการรับหลักฐานสำเร็จการศึกษาฉบับจริง 7 มี.ค. 66 8 พ.ค. 66 16 มิ.ย. 66
ขั้นตอนการรับสมัครเข้าศึกษาในหลักสูตร
  • สามารถสมัครเข้าศึกษาได้ที่
  • ลงทะเบียนสมัครเข้าศึกษาก่อนเข้าสู่ระบบการรับสมัคร
  • กรอกใบสมัครออนไลน์ให้ถูกต้อง ครบถ้วนและส่งข้อมูลผ่านระบบรับสมัครตามกำหนดการรับสมัคร
การพิจารณาเพื่อเข้าศึกษาในหลักสูตร
  • พิจารณาคะแนนภาษาอังกฤษ โดยผู้สมัครเข้าศึกษาต้องมีผลการสอบความรู้ภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่งผ่านเกณฑ์มาตราฐานความรู้ภาษาอังกฤษขั้นต่ำ ตามประกาศของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล สามารถตรวจสอบเกณฑ์คะแนนภาษาอังกฤษได้ที่นี่
  • สอบสัมภาษณ์ โดยกรรมการหลักสูตรและอาจารย์ประจำสาขา โดยเนื้อหาที่สัมภาษณ์ ประกอบด้วย ความรู้พื้นฐานทางกายภาพบำบัด ทักษะทางคลินิก ทักษะทางการวิจัยและความสนใจเกี่ยวกับงานวิจัย
  • หากผู้สมัครมีคุณสมบัติต่างจากที่กำหนดในข้อ 1) อาจได้รับการพิจารณาคัดเลือกให้เข้าศึกษาตามดุลยพินิจของคณะกรรมการบริหารหลักสูตรและคณบดีบัณฑิตวิทยาลัย
โครงการ Mahidol Apprenticeship Program Curriculum (MAP-C)

เป็นรูปแบบการจัดการศึกษาของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล ที่เปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไป และผู้สนใจเข้าศึกษา เพื่อต่อยอดความรู้ และพัฒนาทักษะที่จำเป็นในการปฏิบัติงาน โดยการเปิดรายวิชาของหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา ซึ่งผู้เรียนสามารถนำรายวิชามาขอเทียบโอนหน่วยกิต เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาต่อในระดับบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดลได้

รายวิชาของหลักสูตรที่เปิดในรูปแบบ MAP-C เหมาะสำหรับ
  • นักกายภาพบำบัดที่ต้องการสะสมหน่วยกิตเพื่อใช้ศึกษาต่อในหลักสูตร ลงทะเบียนเรียนแบบ credit (ต้องการเก็บหน่วยกิตและสอบเพื่อวัดผลการเรียนรู้)
  • นักกายภาพบำบัดที่สนใจเพิ่มพูนความรู้และทักษะ ลงทะเบียนเรียนแบบ audit (ไม่ต้องการเก็บหน่วยกิตและไม่ต้องสอบเพื่อวัดผลการเรียนรู้)
รายวิชา MAP-C ของหลักสูตร ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566
รายวิชาบังคับ
  • กภกค 602 การตรวจคัดโรคเชิงวินิจฉัยสำหรับนักกายภาพบำบัด จำนวน 2 หน่วยกิต
  • กภกค 603 สถิติและวิทยาระเบียบวิธีวิจัยทางกายภาพบำบัด จำนวน 2 หน่วยกิต
  • รายวิชาเลือกสาขากายภาพบำบัดระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ
  • กภกค 505 การบำบัดด้วยมือขั้นสูง จำนวน 2 หน่วยกิต
  • รายวิชาเลือกกายภาพบำบัดระบบประสาท
  • กภกค 512 ข้อมูลสำคัญสำหรับนักกายภาพบำบัดทางระบบประสาท
  • รายวิชาเลือกกายภาพบำบัดระบบหายใจ หัวใจและหลอดเลือด
  • กภกค 515 เภสัชวิทยาสำหรับกายภาพบำบัด
  • รายวิชาเลือกสาขากายภาพบำบัดทางการกีฬา
  • กภกค 532 เวชศาสตร์การกีฬา
  • อัตราค่าลงทะเบียน หน่วยกิตละ 1,800 บาท


    สมัครเข้าศึกษา

    ดาวน์โหลด หนังสือเชิญเข้าศึกษารายวิชาของหลักสูตรในรูปแบบ MAP-C ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566

    การเก็บงานวิจัยทางคลินิก

    หลักสูตรเน้นการสร้างงานวิจัยทางคลินิกเฉพาะทาง โดยใช้ปัญหาที่พบประจำในงานกายภาพบำบัด นำมาเป็นหัวข้องานวิจัย เพื่อตอบปัญหาทางคลินิก ตลอดจนนำมาใช้ในการปรับปรุงงานกายภาพบำบัดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการปัญหาและเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้รับบริการ รูปแบบของงานวิจัยในหลักสูตรมีดังนี้

    • Cross-sectional study
    • Experimental study
    • Systematic and meta-analysis review
    • Case report and case series or case study

    หมายเหต แผนการศึกษา ก 2 และ แผน ข มีรูปแบบงานวิจัยที่แตกต่างกันตามระเบียบของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล

    Q: หลักสูตรปริญญาโท สาขากายภาพบำบัด หลักสูตรนานาชาติ ต่างจากหลักสูตรปริญญาโท สาขากายภาพบำบัดคลินิกอย่างไร

    A: ปริญญาโท สาขากายภาพบำบัด หลักสูตรนานาชาติ เป็นหลักสูตรที่ใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนการสอน เน้นเนื้อหาวิชาการทางกายภาพบำบัดที่ทันสมัยและเน้นการสร้างงานวิจัยเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการเรียนรู้การทำงานวิจัย ตอบข้อสงสัยด้วยงานวิจัย ตลอดจนได้โอกาสเรียนรู้ร่วมกับนักกายภาพบำบัดจากหลากหลายประเทศ ก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่จะมีขึ้นกับงานกายภาพบำบัดในอนาคต
    ขณะที่หลักสูตรปริญญาโท สาขากายภาพบำบัดคลินิก เป็นหลักสูตรที่ใช้ภาษาไทยในการเรียนการสอน เน้นความรู้ ทักษะคลินิกเฉพาะทางและเทคนิคขั้นสูงใน 7 สาขาวิชาเฉพาะทางกายภาพบำบัด และมีการสร้างงานวิจัยเพื่อตอบปัญหาทางคลินิก ผู้เข้าศึกษาในหลักสูตรปริญญาโท สาขากายภาพบำบัดคลินิก ต้องเป็นนักกายภาพบำบัดที่มีใบประกอบวิชาชีพของกายภาพบำบัดในประเทศไทยเท่านั้น

    Q: หลักสูตรปริญญาโท สาขากายภาพบำบัดคลินิก ต่างจากหลักสูตรประกาศนียบัตร สาขากายภาพบำบัดคลินิก อย่างไร

    A: หลักสูตรปริญญาโท สาขากายภาพบำบัดคลินิก เป็นหลักสูตรที่เน้นความรู้ ทักษะคลินิกเฉพาะทางและเทคนิคขั้นสูงใน 7 สาขาวิชาเฉพาะทางกายภาพบำบัดเช่นเดียวกับหลักสูตรประกาศนียบัตร สาขากายภาพบำบัดคลินิก แต่มีข้อแตกต่างที่ชัดเจนคือ หลักสูตรปริญญาโท สาขากายภาพบำบัดคลินิก มีการทำงานวิจัยเพื่อตอบปัญหาทางคลินิก ซึ่งจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการเรียนรู้ทักษะและกระบวนการวิจัยทางคลินิก เพื่อพัฒนางานประจำ และ/หรือเพื่อปรับคุณวุฒิ ขณะที่หลักสูตรประกาศนียบัตร สาขากายภาพบำบัดคลินิก เน้นการทำงานทางคลินิกและการเป็นผู้ประกอบการ

    Q: เรียนป.บัณฑิตก่อนแล้วต่อโท คลินิก ได้หรือไม่

    A: เมื่อเรียนจบจากหลักสูตรประกาศนียบัตร สาขากายภาพบำบัดคลินิกสามารถเรียนต่อปริญญาโท สาขากายภาพบำบัดคลินิกได้ โดยการสมัครเข้าเรียนตามรอบปีการศึกษา ผ่านทางบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล โดยสามารถเทียบโอนหน่วยกิตในรายวิชาที่มีผลการเรียนรู้คล้ายกันได้ไม่เกิน 40% ของหน่วยกิตทั้งหมด และต้องเทียบโอนไม่เกิน 5 ปีหลังจากจบการศึกษา ซึ่งการเทียบโอนหน่วยกิตในรายวิชาที่มีผลการเรียนรู้คล้ายกันจะต้องได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการบริหารหลักสูตรปริญญาโท สาขากายภาพบำบัดคลินิก

    Q: ความแตกต่างระหว่างแผนการศึกษาแบบ ก2 และ แผน ข
    แผน ก แบบ ก 2 แผน ข
    หมวดวิชาบังคับ 19 หน่วยกิต 19 หน่วยกิต
    หมวดวิชาเลือก ไม่น้อยกว่า 5 หน่วยกิต 11 หน่วยกิต
    วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต - หน่วยกิต
    สารนิพนธ์ - หน่วยกิต 6 หน่วยกิต
    รวมไม่น้อยกว่า 36 หน่วยกิต 36 หน่วยกิต

    จากโครงสร้างหลักสูตรจะเห็นว่า แผนการศึกษาแบบ ก2 จะเน้นไปที่การวิทยานิพนธ์ ซึ่งมี 12 หน่วยกิต ในขณะที่แผนการศึกษาแบบ ข จะเน้นไปที่วิชาเรียน ซึ่งมีวิชาเลือก ไม่น้อยกว่า 11 หน่วยกิต และมีการทำสารนิพนธ์ ซึ่งมี 6 หน่วยกิต โดยสามารถศึกษาความแตกต่างข้อวิทยานิพนธ์และสารนิพนธ์เพิ่มเติมได้ที่ http://www.grad.mahidol.ac.th/thesis/different-th.php อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 แผนการศึกษา มีรายวิชาฝึกปฏิบัติงานทางคลินิกเฉพาะทาง 6 หน่วยกิต เพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้และมีประสบการณ์ทางคลินิก

    Q: หากทำงานมาแล้ว ต้องฝึกปฏิบัติงานทางคลินิกให้ครบ 500 ชั่วโมง หรือไม่

    A: ไม่จำเป็นฝึกงาน แต่ต้องมีใบรับรองประสบการณ์การทำงานในสาขาเฉพาะทางที่เลือกศึกษาจากหน่วยงานที่ทำงาน ไม่น้อยกว่า 500 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามอาจมีคำแนะนำให้ฝึกงานเพิ่มเติมได้จากคณะกรรมการสอบสัมภาษณ์

    Q: ฝึกปฏิบัติงานทางคลินิก 500 ชั่วโมง ที่ไหนได้บ้าง

    A: สามารถฝึกงานได้ที่คลินิก โรงพยาบาล หรือสถานประกอบการที่มีการบริการทางกายภาพบำบัดเฉพาะทางที่เลือกศึกษา ทั้งนี้ผู้ได้รับการคัดเลือกเข้ารับศึกษาในหลักสูตร สามารถทำเรื่องเพื่อขอฝึกปฏิบัติงานทางคลินิกที่ศูนย์กายภาพบำบัด คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล แต่อย่างไรก็ตาม ต้องได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการบริหารศูนย์กายภาพบำบัด คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล

    Q: เนื้อหาและความรู้ ที่ควรทบทวนมาก่อนเริ่มเรียน

    A: ความรู้ทางด้านกายวิภาคศาสตร์ สรีรวิทยา พยาธิสรีรวิทยา ชีวกลศาสตร์ และทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการสืบค้น ทำรายงาน และนำเสนอ

    Q: ทักษะภาษาอังกฤษ มีความจำเป็นในการเรียนปริญญาโท สาขากายภาพบำบัดคลินิกที่เป็นหลักสูตรไทยหรือไม่

    A: ทักษะภาษาอังกฤษมีความจำเป็น เนื่องจาก รูปแบบการเรียนจะต้องการค้นคว้าและอ่านบทความงานวิจัยที่เป็นภาษอังกฤษ และมีการนำเสนอเป็นภาษาอังกฤษในบางรายวิชา อีกทั้งยังใช้ภาษาอังกฤษในเล่มวิทยานิพนธ์หรือสารนิพนธ์ ทั้งนี้หลักสูตรมีรายวิชาภาษาอังกฤษสำหรับนักกายภาพบำบัดเป็นรายวิชาเลือกให้ลงเรียนเพื่อเพิ่มพูนทักษะภาษาอังกฤษระหว่างเรียนได้

    Q: หากมีผลการทดสอบภาษาอังกฤษไม่เป็นไปตามเกณฑ์มาตราฐานความรู้ภาษาอังกฤษสำหรับสำเร็จการศึกษา จะต้องทำอย่างไรบ้าง

    A: นักศึกษาที่มีผลการทดสอบภาษาอังกฤษไม่เป็นไปในเกณฑ์ที่บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดลกำหนด สามารถเลือกทดสอบความรู้ภาษาอังกฤษจนกว่าจะผ่านเกณฑ์มาตราฐานความรู้ภาษาอังกฤษ หรือลงทะเบียนเรียนรายวิชาภาษาอังกฤษที่บัณฑิตวิทยาลัยกำหนดให้ และสอบผ่านรายวิชาดังกล่าวก่อนการขอสอบวิทยานิพนธ์หรือสารนิพนธ์ โดยสามารถดูรายวิชาที่ต้องลงทะเบียนเรียนได้ที่ https://graduate.mahidol.ac.th/download/current-student/language-center/EnglishCompetenceStandards2020-th.pdf

    Q: ทุนและการทำงานเสริมนอกเวลาเรียน

    A: ทุนสำหรับนักศึกษา มีดังนี้ ทุนเฉลิมพระเกียรติ 60 ปี ครองราชย์สมบัติ, ทุนผู้ช่วยสอน (TA), ทุนผู้ช่วยวิจัย (RA) และทุนอื่นๆ จากบัณฑิตวิทยาลัย สามารถดูรายละเอียดทุนได้ที่ https://graduate.mahidol.ac.th/thai/?p=scholarship
    ในระหว่างที่กำลังศึกษาอยู่ในหลักสูตร นักศึกษาสามารถทำงานนอกเวลาในสถานประกอบการกายภาพบำบัดต่างๆ ได้ หรือทำงานนอกเวลา (part time) ที่ศูนย์กายภาพบำบัด คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดลได้ เมื่อนักศึกษาขึ้นชั้นปีที่ 2 ซึ่งต้องทำเรื่องเพื่อขอปฏิบัติงานนอกเวลาที่ศูนย์กายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล โดยจะได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการบริหารศูนย์กายภาพบำบัด

    Q: หากลงเรียนในรูปแบบ MAP-C หรือ Microcredit มาแล้ว สามารถเก็บผลการศึกษาไว้ได้กี่ปีเพื่อจะนำมาเทียบโอนเมื่อเข้าศึกษาต่อในหลักสูตร

    A: สามารถนำผลการศึกษาในรูปแบบ MAP-C และ Microcredit มาเทียบโอนได้ภายใน 5 ปี ตามวงรอบการปรับปรุงหลักสูตร เช่น หลักสูตรปริญญาโท สาขากายภาพบำบัดคลินิก ปรับปรุงปี 2564 หากลงเรียนในรูปแบบ MAP-C หรือ Microcredit สามารถเก็บผลการศึกษามาใช้สำหรับเทียบโอนเข้าศึกษาได้ถึงปีการศึกษา 2568

    Q: ประมาณการค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตรปริญญาโท สาขากายภาพบำบัดคลินิก

    A: แผนการศึกษา ก2

    รวมประมาณการค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตร 111,200 บาท
    *ประมาณการค่าใช้จ่ายตามแผนการศึกษาของหลักสูตรในระยะเวลาการศึกษา 2 ปีการศึกษา ทั้งนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าธรรมเนียมบางประเภท
    **ไม่รวมค่าวิจัยเพื่อทำวิทยานิพนธ์

    A: แผนการศึกษา ข

    รวมประมาณการค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตร 110,100 บาท
    *ประมาณการค่าใช้จ่ายตามแผนการศึกษาของหลักสูตรในระยะเวลาการศึกษา 2 ปีการศึกษา ทั้งนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าธรรมเนียมบางประเภท
    **ไม่รวมค่าวิจัยเพื่อทำวิทยานิพนธ์

    อาจารย์ประจำหลักสูตร
    1. ผศ.ดร.กภ. ทิพย์วดี บรรพระจันทร์ (ประธานหลักสูตร)
    2. รศ.ดร.กภ. ประเสริฐ สกุลศรีประเสริฐ
    3. รศ.ดร.กภ. พีร์มงคล วัฒนานนท์
    4. รศ.ดร.กภ. มัณฑนา วงศ์ศิรินวรัตน์
    5. รศ.ดร.กภ. สุนีย์ บวรสุนทรชัย
    6. รศ.ดร.กภ. จารุกูล ตรีไตรลักษณะ
    7. รศ.ดร.กภ. ชุติมา ชลายนเดชะ
    8. รศ.ดร.กภ. รุ่งทิวา วัจฉละฐิติ
    9. รศ.ดร.กภ. วรรธนะ ชลายนเดชะ
    10. รศ.ดร.กภ. วิมลวรรณ เหียงแก้ว
    11. ผศ.ดร.กภ. จตุพร สุทธิวงษ์
    12. ผศ.ดร.กภ. คมศักดิ์ สินสุรินทร์
    13. ผศ.ดร.กภ. นันทินี นวลนิ่ม
    14. ผศ.ดร.กภ. คีรินท์ เมฆโหรา
    15. ผศ.ดร.กภ. ระวีวรรณ เล็กสกุลไชย
    16. ผศ.ดร.กภ. วนาลี กล่อมใจ
    17. ผศ.ดร.กภ. วรินทร์ กฤตยาเกียรณ
    18. ผศ.ดร.กบ. ศุภลักษณ์ เข็มทอง
    19. รศ.ดร.กภ. สายพิณ ประเสริฐสุขดี
    20. ผศ.ดร.กภ. เพชรรัตน์ ภูอนันตานนท์
    21. ผศ.ดร.กภ. ภครตี ชัยวัฒน์
    22. ผศ.ดร.กภ. ผกามาศ พิริยะประสาธน์
    23. ผศ.ดร.กบ. พีรเดช ธิจันทร์เปียง
    24. อ.ดร.กภ. เฟื่องฟ้า ขอบคุณ
    25. อ.ดร.กภ. รัชนก ไกรวงศ์
    26. อ.ดร.กภ. วรรณเพ็ญ จันทร์ศิรินุเคราะห์
    27. ผศ.ดร.กภ. เวทสินี แก้วขันตี
    28. อ.ดร.กภ. สิริกาญจน์ สมประสงค์
    29. อ.ดร.กภ. สุธาสินี ทองอ่อน
    30. อ.ดร.กบ. สุรชาต ทองชุมสิน
    31. อ.ดร.กภ. อัมพร นันทาภรณ์ศักดิ์
    32. อ.ดร.กภ. เบญจพร เอนกแสน
    33. อ.ดร.กภ. จุฑามาศ สุระพงษ์ชัย