
หลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต
สาขาวิชากายภาพบำบัดคลินิก
เป็นหลักสูตรหลังปริญญา ระยะเวลา 1 ปี เน้นทางด้านงานกายภาพบำบัดคลินิกเฉพาะทาง ในสาขาย่อย 7 ได้แก่ ระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ, ระบบประสาท, ระบบหายใจ หัวใจและหลอดเลือด, เด็ก, ผู้สูงอายุ, การกีฬา และชุมชนและการส่งเสริมสุขภาพ ทั้งนี้ สาขา เน้นการใช้งานจริงและการเป็นผู้ประกอบการ ตลอดจนการนำความรู้ใหม่ๆ มาประยุกต์ และการเรียนรู้ตลอดชีพ
ชื่อหลักสูตร : หลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต สาขาวิชากายภาพบำบัดคลินิก
ชื่อปริญญา : ประกาศนียบัตรบัณฑิต (กายภาพบำบัดคลินิก)
ปรัชญา ความสำคัญของหลักสูตร : มุ่งเน้นให้นักกายภาพบำบัดมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านกายภาพบำบัดทางระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ กายภาพบำบัดระบบประสาท กายภาพบำบัดเด็ก กายภาพบำบัดชุมชนและการส่งเสริมสุขภาพ กายภาพบำบัดระบบหายใจและหัวใจหลอดเลือด กายภาพบำบัดทางการกีฬา และกายภาพบำบัดในผู้สูงอายุ ให้เป็นที่ยอมรับของวิชาชีพกายภาพบำบัดและวิชาชีพที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ นำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น
วัตถุประสงค์ของหลักสูตร
- มีคุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ ในการบริหารจัดการงานวิชาชีพทางกายภาพบำบัด
- มีความรู้ทางกายภาพบำบัดและศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนอย่างเป็นระบบโดยอ้างอิงข้อมูลหลักฐานที่ทันสมัย
- สามารถประยุกต์ความรู้และทักษะปฏิบัติทางวิชาชีพเฉพาะทางในการสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การบำบัดรักษา และฟื้นฟูสุขภาพ
- มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ มีภาวะผู้นำในสาขาวิชาชีพ และสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่น เพื่อพัฒนาสาขาวิชาชีพและสังคม
- สามารถสืบค้นข้อมูล ติดตามความก้าวหน้าทางวิชาการ สื่อสารและถ่ายทอดความรู้โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเหมาะสม เพื่อพัฒนางานบริการทางกายภาพบำบัดเฉพาะทางให้ก้าวหน้า
- มีทักษะการปฏิบัติทางวิชาชีพเฉพาะทางในการสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การบำบัดรักษา และฟื้นฟูสุขภาพ
ผลการเรียนรู้ที่คาดหวังของหลักสูตร (Expected Learning Outcomes; ELOs)
- ปฏิบัติวิชาชีพทางกายภาพบำบัดโดยใช้ศาสตร์เฉพาะทางเพื่อการตรวจวินิจฉัย และการจัดการปัญหาที่ซับซ้อนได้อย่างมีคุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ
- จัดการปัญหาที่ซับซ้อนโดยใช้ความรู้ทางกายภาพบำบัดและศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง โดยอ้างอิงข้อมูลหลักฐานที่ทันสมัยอย่างเป็นระบบ
- ประยุกต์ความรู้และทักษะปฏิบัติทางวิชาชีพเฉพาะทาง เพื่องานสร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค บำบัดรักษา และฟื้นฟูสุขภาพ
- แสดงภาวะผู้นำทางวิชาชีพและสามารถสื่อสารและสร้างปฏิสัมพันธ์ ร่วมกับสหสาขาวิชาชีพอย่างมีประสิทธิภาพ ตามสถานการณ์ที่เหมาะสม
- พัฒนาตนเองและเรียนรู้อย่างต่อเนื่องด้วยการติดตามความก้าวหน้าทางวิชาการ และใช้เทคโนโลยีในการสืบค้นข้อมูล สื่อสารและถ่ายทอดความรู้ เพื่อพัฒนางานบริการในสาขาวิชาชีพให้ก้าวหน้า
- ปฏิบัติงานทางวิชาชีพเฉพาะทางเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การบำบัดรักษา และฟื้นฟูสุขภาพ
โครงสร้างหลักสูตร
จำนวนหน่วยกิตรวมตลอดหลักสูตร : ไม่น้อยกว่า 25 หน่วยกิต
โครงสร้างหลักสูตร : จัดการศึกษาตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา พ.ศ.๒๕๕๘ หลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตสาขากายภาพบำบัดคลินิก มีแผนการสอนดังนี้
- หมวดวิชาบังคับ 15 หน่วยกิต
- หมวดวิชาเลือก ไม่น้อยกว่า 10 หน่วยกิต
คุณสมบัติของผู้เข้าศึกษา
- สำเร็จการศึกษาหลักสูตรปริญญาตรี สาขาวิชากายภาพบำบัด
- ได้คะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 2.50 หรือเทียบเท่า
- มีผลคะแนนภาษาอังกฤษผ่านตามเกณฑ์ของบัณฑิตวิทยาลัย
- เป็นผู้ถือใบประกอบวิชาชีพกายภาพบำบัด หรือผู้ที่คาดว่าจะได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพกายภาพบำบัด ภายในภาคการศึกษาที่ 1 ของหลักสูตร
- มีประสบการณ์ทางคลินิกที่เหมาะสมกับสาขาเฉพาะทาง อย่างน้อย 500 ชั่วโมง นับถึงวันเริ่มเปิดภาคเรียนทุกวิชาเอก
- ผู้สมัครเข้าศึกษาที่มีคุณสมบัตินอกเหนือจากเกณฑ์ดังกล่าวนี้ อาจได้รับการพิจารณาให้สมัครเข้ารับการคัดเลือกเข้าศึกษา ตามดุลยพินิจของคณะกรรมการบริหารหลักสูตร และคณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล
ผู้สนใจสมัครเข้าศึกษาสามารถเข้าไปสมัครได้ที่ เว็บไซต์ของบัณฑิตวิทยาลัย โดยสามารถดูกำหนดการการรับสมัครรอบต่าง ๆ ได้ที่ https://graduate.mahidol.ac.th/thai/prospective-students/?topic=schedule
ขั้นตอนการรับสมัคร
- สามารถสมัครเข้าศึกษาได้ที่ https://graduate.mahidol.ac.th/Admission/announce/cur_open_list.php
- ลงทะเบียนสมัครเข้าศึกษาก่อนเข้าสู่ระบบการรับสมัคร
- กรอกใบสมัครออนไลน์ให้ถูกต้อง ครบถ้วนและส่งข้อมูลผ่านระบบรับสมัครตามกำหนดการรับสมัคร
- ขั้นตอนการรับสมัครและเอกสารหลักฐาน สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ https://graduate.mahidol.ac.th/thai/prospective-students/?topic=howToBeStudent
โครงการ Mahidol Apprenticeship Program Curriculum (MAP-C)
Life-Long Learning For Essential Skill Development Of The 21st Century And Beyond
Mahidol Apprenticeship Program Curriculum (MAP-C) เป็นรูปแบบการจัดการศึกษาของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล ที่เปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไป และผู้สนใจเข้าศึกษา เพื่อต่อยอดความรู้ และพัฒนาทักษะที่จำเป็นในการปฏิบัติงาน โดยการเปิดรายวิชาของหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา ซึ่งผู้เรียนสามารถนำรายวิชามาขอโอนหน่วยกิต เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาต่อในระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดลได้
รายวิชาของหลักสูตรที่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าศึกษา ในปีการศึกษา 2564
*ได้ใบรับรองผลการศึกษาและสามารถใช้เก็บหน่วยกิตสำหรับการศึกษาต่อในระดับปริญญาโท หลักสูตรกายภาพบำบัดคลินิกได้
**ค่าใช้จ่ายต่อรายวิชา 3,600 บาท (2 หน่วยกิต หน่วยกิตละ 1,800 บาท)
โครงการ Microcredit
Microcredit เป็นรูปแบบของการสะสมหน่วยกิตย่อย ของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล ที่เปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปสามารถสะสมหน่วยกิตย่อยจากการเข้าศึกษาในบางหัวข้อของรายวิชาในหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา หรือเข้ารับการอบรม หรือเรียนรู้จากแหล่งต่าง ๆ ที่ได้รับอนุมัติจากศูนย์การศึกษาต่อเนื่องสภากายภาพบำบัดหรือได้รับรองจากสถาบันต่างประเทศ โดยเมื่อผู้เรียนสมัครเข้าศึกษาต่อในระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล จะสามารถนำผลการเรียนรู้เหล่านี้มาเทียบเคียงกับผลการเรียนรู้ในบางหัวข้อของรายวิชาในหลักสูตร
Q: หลักสูตรปริญญาโท สาขากายภาพบำบัดคลินิก ต่างจากหลักสูตรประกาศนียบัตร สาขากายภาพบำบัดคลินิก อย่างไร
A: หลักสูตรปริญญาโท สาขากายภาพบำบัดคลินิก เป็นหลักสูตรที่เน้นความรู้ ทักษะคลินิกเฉพาะทางและเทคนิคขั้นสูงใน 7 สาขาวิชาเฉพาะทางกายภาพบำบัดเช่นเดียวกับหลักสูตรประกาศนียบัตร สาขากายภาพบำบัดคลินิก แต่มีข้อแตกต่างที่ชัดเจนคือ หลักสูตรปริญญาโท สาขากายภาพบำบัดคลินิก มีการทำงานวิจัยเพื่อตอบปัญหาทางคลินิก ซึ่งจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการเรียนรู้ทักษะและกระบวนการวิจัยทางคลินิก เพื่อพัฒนางานประจำ และ/หรือเพื่อปรับคุณวุฒิ ขณะที่หลักสูตรประกาศนียบัตร สาขากายภาพบำบัดคลินิก เน้นการทำงานทางคลินิกและการเป็นผู้ประกอบการ
Q: เรียนป.บัณฑิตก่อนแล้วต่อโท คลินิก ได้หรือไม่
A: เมื่อเรียนจบจากหลักสูตรประกาศนียบัตร สาขากายภาพบำบัดคลินิกสามารถเรียนต่อปริญญาโท สาขากายภาพบำบัดคลินิกได้ โดยการสมัครเข้าเรียนตามรอบปีการศึกษา ผ่านทางบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล โดยสามารถเทียบโอนหน่วยกิตในรายวิชาที่มีผลการเรียนรู้คล้ายกันได้ไม่เกิน 40% ของหน่วยกิตทั้งหมด และต้องเทียบโอนไม่เกิน 5 ปีหลังจากจบการศึกษา ซึ่งการเทียบโอนหน่วยกิตในรายวิชาที่มีผลการเรียนรู้คล้ายกันจะต้องได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการบริหารหลักสูตรปริญญาโท สาขากายภาพบำบัดคลินิก
Q: ความแตกต่างระหว่างแผนการศึกษาแบบ ก2 และ แผน ข
แผน ก แบบ ก 2 | แผน ข | |||
---|---|---|---|---|
หมวดวิชาบังคับ | 19 | หน่วยกิต | 19 | หน่วยกิต |
หมวดวิชาเลือก ไม่น้อยกว่า | 5 | หน่วยกิต | 11 | หน่วยกิต |
วิทยานิพนธ์ | 12 | หน่วยกิต | - | หน่วยกิต |
สารนิพนธ์ | - | หน่วยกิต | 6 | หน่วยกิต |
รวมไม่น้อยกว่า | 36 | หน่วยกิต | 36 | หน่วยกิต |
จากโครงสร้างหลักสูตรจะเห็นว่า แผนการศึกษาแบบ ก2 จะเน้นไปที่การวิทยานิพนธ์ ซึ่งมี 12 หน่วยกิต ในขณะที่แผนการศึกษาแบบ ข จะเน้นไปที่วิชาเรียน ซึ่งมีวิชาเลือก ไม่น้อยกว่า 11 หน่วยกิต และมีการทำสารนิพนธ์ ซึ่งมี 6 หน่วยกิต โดยสามารถศึกษาความแตกต่างข้อวิทยานิพนธ์และสารนิพนธ์เพิ่มเติมได้ที่ http://www.grad.mahidol.ac.th/thesis/different-th.php อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 แผนการศึกษา มีรายวิชาฝึกปฏิบัติงานทางคลินิกเฉพาะทาง 6 หน่วยกิต เพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้และมีประสบการณ์ทางคลินิก
Q: หากทำงานมาแล้ว ต้องฝึกปฏิบัติงานทางคลินิกให้ครบ 500 ชั่วโมง หรือไม่
A: ไม่จำเป็นฝึกงาน แต่ต้องมีใบรับรองประสบการณ์การทำงานในสาขาเฉพาะทางที่เลือกศึกษาจากหน่วยงานที่ทำงาน ไม่น้อยกว่า 500 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามอาจมีคำแนะนำให้ฝึกงานเพิ่มเติมได้จากคณะกรรมการสอบสัมภาษณ์
Q: ฝึกปฏิบัติงานทางคลินิก 500 ชั่วโมง ที่ไหนได้บ้าง
A: สามารถฝึกงานได้ที่คลินิก โรงพยาบาล หรือสถานประกอบการที่มีการบริการทางกายภาพบำบัดเฉพาะทางที่เลือกศึกษา ทั้งนี้ผู้ได้รับการคัดเลือกเข้ารับศึกษาในหลักสูตร สามารถทำเรื่องเพื่อขอฝึกปฏิบัติงานทางคลินิกที่ศูนย์กายภาพบำบัด คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล แต่อย่างไรก็ตาม ต้องได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการบริหารศูนย์กายภาพบำบัด คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล
Q: เนื้อหาและความรู้ ที่ควรทบทวนมาก่อนเริ่มเรียน
A: ความรู้ทางด้านกายวิภาคศาสตร์ สรีรวิทยา พยาธิสรีรวิทยา ชีวกลศาสตร์ และทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการสืบค้น ทำรายงาน และนำเสนอ
Q: ทักษะภาษาอังกฤษ มีความจำเป็นในการเรียนประกาศนียบัตรบัณฑิต สาขากายภาพบำบัดคลินิกที่เป็นหลักสูตรไทยหรือไม่
A: ทักษะภาษาอังกฤษมีความจำเป็น เนื่องจาก รูปแบบการเรียนจะต้องการค้นคว้าและอ่านบทความงานวิจัยที่เป็นภาษอังกฤษ และมีการนำเสนอเป็นภาษาอังกฤษในบางรายวิชา ทั้งนี้หลักสูตรมีรายวิชาภาษาอังกฤษสำหรับนักกายภาพบำบัดเป็นรายวิชาเลือกให้ลงเรียนเพื่อเพิ่มพูนทักษะภาษาอังกฤษระหว่างเรียนได้
Q: หากมีผลการทดสอบภาษาอังกฤษไม่เป็นไปตามเกณฑ์มาตราฐานความรู้ภาษาอังกฤษสำหรับสำเร็จการศึกษา จะต้องทำอย่างไรบ้าง
A: นักศึกษาที่มีผลการทดสอบภาษาอังกฤษไม่เป็นไปในเกณฑ์ที่บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดลกำหนด สามารถเลือกทดสอบความรู้ภาษาอังกฤษจนกว่าจะผ่านเกณฑ์มาตราฐานความรู้ภาษาอังกฤษ หรือลงทะเบียนเรียนรายวิชาภาษาอังกฤษที่บัณฑิตวิทยาลัยกำหนดให้ และสอบผ่านรายวิชาดังกล่าวก่อนการขอสอบวิทยานิพนธ์หรือสารนิพนธ์ โดยสามารถดูรายวิชาที่ต้องลงทะเบียนเรียนได้ที่ https://graduate.mahidol.ac.th/download/current-student/language-center/EnglishCompetenceStandards2020-th.pdf
Q: ทุนและการทำงานเสริมนอกเวลาเรียน
A: ในระหว่างที่กำลังศึกษาอยู่ในหลักสูตร นักศึกษาสามารถทำงานนอกเวลาในสถานประกอบการกายภาพบำบัดต่างๆ ได้ หรือทำงานนอกเวลา (part time) ที่ศูนย์กายภาพบำบัด คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดลได้ เมื่อนักศึกษาเรียนอยู่ในภาคการศึกษาที่ 2 ซึ่งต้องทำเรื่องเพื่อขอปฏิบัติงานนอกเวลาที่ศูนย์กายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล โดยจะได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการบริหารศูนย์กายภาพบำบัด
Q: หากลงเรียนในรูปแบบ MAP-C หรือ Microcredit มาแล้ว สามารถเก็บผลการศึกษาไว้ได้กี่ปีเพื่อจะนำมาเทียบโอนเมื่อเข้าศึกษาต่อในหลักสูตร
A: สามารถนำผลการศึกษาในรูปแบบ MAP-C และ Microcredit มาเทียบโอนได้ภายใน 5 ปี ตามวงรอบการปรับปรุงหลักสูตร เช่น ประกาศนียบัตรบัณฑิต สาขากายภาพบำบัดคลินิก ปรับปรุงปี 2565 หากลงเรียนในรูปแบบ MAP-C หรือ Microcredit สามารถเก็บผลการศึกษามาใช้สำหรับเทียบโอนเข้าศึกษาได้ถึงปีการศึกษา 2569 หากเกินจากนั้นจะต้องนำผลการศึกษาให้คณะกรรมการพิจารณาและทำการทดสอบความรู้เพื่อการเทียบโอน
Q: ประมาณการค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต สาขากายภาพบำบัดคลินิก
ค่าใช้จ่าย 1800 บาท ต่อ หน่วยกิต และค่าบำรุงการศึกษา 2 ภาคการศึกษา 13000 บาท ประมาณการ 25 หน่วยกิต และค่าบำรุงการศึกษา เท่ากับ 58000บาท ทั้งนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าธรรมเนียมบางประเภท
อาจารย์ประจำหลักสูตร
- ผศ.ดร.กภ. คีรินท์ เมฆโหรา (ประธานหลักสูตร)
- รศ.ดร.กภ. จารุกูล ตรีไตรลักษณะ
- รศ.ดร.กภ. ชุติมา ชลายนเดชะ
- รศ.ดร.กภ. พีร์มงคล วัฒนานนท์
- รศ.ดร.กภ. มัณฑนา วงศ์ศิรินวรัตน์
- รศ.ดร.กภ. รุ่งทิวา วัจฉละฐิติ
- รศ.ดร.กภ. วรรธนะ ชลายนเดชะ
- รศ.ดร.กภ. วิมลวรรณ เหียงแก้ว
- รศ.ดร.กภ. สุนีย์ บวรสุนทรชัย
- รศ.ดร.กภ. ประเสริฐ สกุลศรีประเสริฐ
- ผศ.ดร.กภ. ผกามาศ พิริยะประสาธน์
- ผศ.ดร.กบ. พีรเดช ธิจันทร์เปียง
- ผศ.ดร.กภ. เพชรรัตน์ ภูอนันตานนท์
- ผศ.ดร.กภ. ภครตี ชัยวัฒน์
- ผศ.ดร.กภ. ระวีวรรณ เล็กสกุลไชย
- ผศ.ดร.กภ. วนาลี กล่อมใจ
- ผศ.ดร.กภ. วรินทร์ กฤตยาเกียรณ
- ผศ.ดร.กบ. ศุภลักษณ์ เข็มทอง
- รศ.ดร.กภ. สายพิณ ประเสริฐสุขดี
- ผศ.ดร.กภ. จตุพร สุทธิวงษ์
- ผศ.ดร.กภ. คมศักดิ์ สินสุรินทร์
- ผศ.ดร.กภ. ทิพย์วดี บรรพระจันทร์
- ผศ.ดร.กภ. นันทินี นวลนิ่ม
- อ.ดร.กภ. เบญจพร เอนกแสน
- อ.ดร.กภ. เฟื่องฟ้า ขอบคุณ
- อ.ดร.กภ. รัชนก ไกรวงศ์
- อ.ดร.กภ. วรรณเพ็ญ จันทร์ศิรินุเคราะห์
- ผศ.ดร.กภ. เวทสินี แก้วขันตี
- อ.ดร.กภ. สิริกาญจน์ สมประสงค์
- ผศ.ดร.กบ. สุธินันท์ จันทร
- อ.ดร.กบ. สุรชาต ทองชุมสิน
- อ.ดร.กภ. สุวีณา ค้าเจริญ
- อ.ดร.กภ. จุฑามาศ สุระพงษ์ชัย
- อ.ดร.กบ. ฐิติยา วังกาวรรณ์