edu_dip_pt

อ.ดร.กภ. สิริกาญจน์ สมประสงค์

ประธานหลักสูตร

024415450 #21801


sirikarn.som@mahidol.ac.th

ผศ.ดร.กภ. คีรินท์ เมฆโหรา

เลขาหลักสูตร

024415450 #21603


keerin.mek@mahidol.ac.th

น.ส.อารีรัตน์ งามขำ

เจ้าหน้าที่ประจำหลักสูตร

024415450 #20205


areerat.ngm@mahidol.ac.th

น.ส.สุทธิวรรณ เหมือนโพธิ์

เจ้าหน้าที่ประจำหลักสูตร

024415450 #20207


suttiwan.mue@mahidol.ac.th

ชื่อหลักสูตร : หลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต สาขาวิชากายภาพบำบัดคลินิก

ชื่อปริญญา : ประกาศนียบัตรบัณฑิต (กายภาพบำบัดคลินิก)

ปรัชญา ความสำคัญของหลักสูตร : มุ่งเน้นให้นักกายภาพบำบัดมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านกายภาพบำบัดทางระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ กายภาพบำบัดระบบประสาท กายภาพบำบัดเด็ก กายภาพบำบัดชุมชนและการส่งเสริมสุขภาพ กายภาพบำบัดระบบหายใจและหัวใจหลอดเลือด กายภาพบำบัดทางการกีฬา และกายภาพบำบัดในผู้สูงอายุ ให้เป็นที่ยอมรับของวิชาชีพกายภาพบำบัดและวิชาชีพที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ นำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น

วัตถุประสงค์ของหลักสูตร
  • มีคุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ ในการบริหารจัดการงานวิชาชีพทางกายภาพบำบัด
  • มีความรู้ทางกายภาพบำบัดและศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนอย่างเป็นระบบโดยอ้างอิงข้อมูลหลักฐานที่ทันสมัย
  • สามารถประยุกต์ความรู้และทักษะปฏิบัติทางวิชาชีพเฉพาะทางในการสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การบำบัดรักษา และฟื้นฟูสุขภาพ
  • มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ มีภาวะผู้นำในสาขาวิชาชีพ และสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่น เพื่อพัฒนาสาขาวิชาชีพและสังคม
  • สามารถสืบค้นข้อมูล ติดตามความก้าวหน้าทางวิชาการ สื่อสารและถ่ายทอดความรู้โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเหมาะสม เพื่อพัฒนางานบริการทางกายภาพบำบัดเฉพาะทางให้ก้าวหน้า
  • มีทักษะการปฏิบัติทางวิชาชีพเฉพาะทางในการสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การบำบัดรักษา และฟื้นฟูสุขภาพ
ผลการเรียนรู้ที่คาดหวังของหลักสูตร (Expected Learning Outcomes; ELOs)
  • ปฏิบัติวิชาชีพทางกายภาพบำบัดโดยใช้ศาสตร์เฉพาะทางเพื่อการตรวจวินิจฉัย และการจัดการปัญหาที่ซับซ้อนได้อย่างมีคุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ
  • จัดการปัญหาที่ซับซ้อนโดยใช้ความรู้ทางกายภาพบำบัดและศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง โดยอ้างอิงข้อมูลหลักฐานที่ทันสมัยอย่างเป็นระบบ
  • ประยุกต์ความรู้และทักษะปฏิบัติทางวิชาชีพเฉพาะทาง เพื่องานสร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค บำบัดรักษา และฟื้นฟูสุขภาพ
  • แสดงภาวะผู้นำทางวิชาชีพและสามารถสื่อสารและสร้างปฏิสัมพันธ์ ร่วมกับสหสาขาวิชาชีพอย่างมีประสิทธิภาพ ตามสถานการณ์ที่เหมาะสม
  • พัฒนาตนเองและเรียนรู้อย่างต่อเนื่องด้วยการติดตามความก้าวหน้าทางวิชาการ และใช้เทคโนโลยีในการสืบค้นข้อมูล สื่อสารและถ่ายทอดความรู้ เพื่อพัฒนางานบริการในสาขาวิชาชีพให้ก้าวหน้า
  • ปฏิบัติงานทางวิชาชีพเฉพาะทางเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การบำบัดรักษา และฟื้นฟูสุขภาพ
โครงสร้างหลักสูตร

จำนวนหน่วยกิตรวมตลอดหลักสูตร : ไม่น้อยกว่า 25 หน่วยกิต

โครงสร้างหลักสูตร : จัดการศึกษาตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา พ.ศ.๒๕๕๘ หลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตสาขากายภาพบำบัดคลินิก มีแผนการสอนดังนี้

  • หมวดวิชาบังคับ 15 หน่วยกิต
  • หมวดวิชาเลือก ไม่น้อยกว่า 10 หน่วยกิต

คุณสมบัติของผู้เข้าศึกษา
  • สำเร็จการศึกษาหลักสูตรปริญญาตรี สาขาวิชากายภาพบำบัด
  • ได้คะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 2.50 หรือเทียบเท่า
  • มีผลคะแนนภาษาอังกฤษผ่านตามเกณฑ์ของบัณฑิตวิทยาลัย
  • เป็นผู้ถือใบประกอบวิชาชีพกายภาพบำบัด หรือผู้ที่คาดว่าจะได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพกายภาพบำบัด ภายในภาคการศึกษาที่ 1 ของหลักสูตร
  • มีประสบการณ์ทางคลินิกที่เหมาะสมกับสาขาเฉพาะทาง อย่างน้อย 500 ชั่วโมง นับถึงวันเริ่มเปิดภาคเรียนทุกวิชาเอก
  • ผู้สมัครเข้าศึกษาที่มีคุณสมบัตินอกเหนือจากเกณฑ์ดังกล่าวนี้ อาจได้รับการพิจารณาให้สมัครเข้ารับการคัดเลือกเข้าศึกษา ตามดุลยพินิจของคณะกรรมการบริหารหลักสูตร และคณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล

ผู้สนใจสมัครเข้าศึกษาสามารถเข้าไปสมัครได้ที่ เว็บไซต์ของบัณฑิตวิทยาลัย โดยสามารถดูกำหนดการการรับสมัครรอบต่าง ๆ ได้ที่ https://graduate.mahidol.ac.th/thai/prospective-students/?topic=schedule

ขั้นตอนการรับสมัคร
  • สามารถสมัครเข้าศึกษาได้ที่ https://graduate.mahidol.ac.th/Admission/announce/cur_open_list.php
  • ลงทะเบียนสมัครเข้าศึกษาก่อนเข้าสู่ระบบการรับสมัคร
  • กรอกใบสมัครออนไลน์ให้ถูกต้อง ครบถ้วนและส่งข้อมูลผ่านระบบรับสมัครตามกำหนดการรับสมัคร
  • ขั้นตอนการรับสมัครและเอกสารหลักฐาน สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ https://graduate.mahidol.ac.th/thai/prospective-students/?topic=howToBeStudent
โครงการ Mahidol Apprenticeship Program Curriculum (MAP-C)
Life-Long Learning For Essential Skill Development Of The 21st Century And Beyond

Mahidol Apprenticeship Program Curriculum (MAP-C) เป็นรูปแบบการจัดการศึกษาของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล ที่เปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไป และผู้สนใจเข้าศึกษา เพื่อต่อยอดความรู้ และพัฒนาทักษะที่จำเป็นในการปฏิบัติงาน โดยการเปิดรายวิชาของหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา ซึ่งผู้เรียนสามารถนำรายวิชามาขอโอนหน่วยกิต เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาต่อในระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดลได้

รายวิชาของหลักสูตรที่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าศึกษา ในปีการศึกษา 2564
  • กภกค 504 ทฤษฎีและการจัดการความปวด 2 หน่วยกิต
  • *ได้ใบรับรองผลการศึกษาและสามารถใช้เก็บหน่วยกิตสำหรับการศึกษาต่อในระดับปริญญาโท หลักสูตรกายภาพบำบัดคลินิกได้
    **ค่าใช้จ่ายต่อรายวิชา 3,600 บาท (2 หน่วยกิต หน่วยกิตละ 1,800 บาท)

    โครงการ Microcredit

    Microcredit เป็นรูปแบบของการสะสมหน่วยกิตย่อย ของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล ที่เปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปสามารถสะสมหน่วยกิตย่อยจากการเข้าศึกษาในบางหัวข้อของรายวิชาในหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา หรือเข้ารับการอบรม หรือเรียนรู้จากแหล่งต่าง ๆ ที่ได้รับอนุมัติจากศูนย์การศึกษาต่อเนื่องสภากายภาพบำบัดหรือได้รับรองจากสถาบันต่างประเทศ โดยเมื่อผู้เรียนสมัครเข้าศึกษาต่อในระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล จะสามารถนำผลการเรียนรู้เหล่านี้มาเทียบเคียงกับผลการเรียนรู้ในบางหัวข้อของรายวิชาในหลักสูตร

    Q: หลักสูตรปริญญาโท สาขากายภาพบำบัดคลินิก ต่างจากหลักสูตรประกาศนียบัตร สาขากายภาพบำบัดคลินิก อย่างไร

    A: หลักสูตรปริญญาโท สาขากายภาพบำบัดคลินิก เป็นหลักสูตรที่เน้นความรู้ ทักษะคลินิกเฉพาะทางและเทคนิคขั้นสูงใน 7 สาขาวิชาเฉพาะทางกายภาพบำบัดเช่นเดียวกับหลักสูตรประกาศนียบัตร สาขากายภาพบำบัดคลินิก แต่มีข้อแตกต่างที่ชัดเจนคือ หลักสูตรปริญญาโท สาขากายภาพบำบัดคลินิก มีการทำงานวิจัยเพื่อตอบปัญหาทางคลินิก ซึ่งจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการเรียนรู้ทักษะและกระบวนการวิจัยทางคลินิก เพื่อพัฒนางานประจำ และ/หรือเพื่อปรับคุณวุฒิ ขณะที่หลักสูตรประกาศนียบัตร สาขากายภาพบำบัดคลินิก เน้นการทำงานทางคลินิกและการเป็นผู้ประกอบการ

    Q: เรียนป.บัณฑิตก่อนแล้วต่อโท คลินิก ได้หรือไม่

    A: เมื่อเรียนจบจากหลักสูตรประกาศนียบัตร สาขากายภาพบำบัดคลินิกสามารถเรียนต่อปริญญาโท สาขากายภาพบำบัดคลินิกได้ โดยการสมัครเข้าเรียนตามรอบปีการศึกษา ผ่านทางบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล โดยสามารถเทียบโอนหน่วยกิตในรายวิชาที่มีผลการเรียนรู้คล้ายกันได้ไม่เกิน 40% ของหน่วยกิตทั้งหมด และต้องเทียบโอนไม่เกิน 5 ปีหลังจากจบการศึกษา ซึ่งการเทียบโอนหน่วยกิตในรายวิชาที่มีผลการเรียนรู้คล้ายกันจะต้องได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการบริหารหลักสูตรปริญญาโท สาขากายภาพบำบัดคลินิก

    Q: ความแตกต่างระหว่างแผนการศึกษาแบบ ก2 และ แผน ข
    แผน ก แบบ ก 2 แผน ข
    หมวดวิชาบังคับ 19 หน่วยกิต 19 หน่วยกิต
    หมวดวิชาเลือก ไม่น้อยกว่า 5 หน่วยกิต 11 หน่วยกิต
    วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต - หน่วยกิต
    สารนิพนธ์ - หน่วยกิต 6 หน่วยกิต
    รวมไม่น้อยกว่า 36 หน่วยกิต 36 หน่วยกิต

    จากโครงสร้างหลักสูตรจะเห็นว่า แผนการศึกษาแบบ ก2 จะเน้นไปที่การวิทยานิพนธ์ ซึ่งมี 12 หน่วยกิต ในขณะที่แผนการศึกษาแบบ ข จะเน้นไปที่วิชาเรียน ซึ่งมีวิชาเลือก ไม่น้อยกว่า 11 หน่วยกิต และมีการทำสารนิพนธ์ ซึ่งมี 6 หน่วยกิต โดยสามารถศึกษาความแตกต่างข้อวิทยานิพนธ์และสารนิพนธ์เพิ่มเติมได้ที่ http://www.grad.mahidol.ac.th/thesis/different-th.php อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 แผนการศึกษา มีรายวิชาฝึกปฏิบัติงานทางคลินิกเฉพาะทาง 6 หน่วยกิต เพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้และมีประสบการณ์ทางคลินิก

    Q: หากทำงานมาแล้ว ต้องฝึกปฏิบัติงานทางคลินิกให้ครบ 500 ชั่วโมง หรือไม่

    A: ไม่จำเป็นฝึกงาน แต่ต้องมีใบรับรองประสบการณ์การทำงานในสาขาเฉพาะทางที่เลือกศึกษาจากหน่วยงานที่ทำงาน ไม่น้อยกว่า 500 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามอาจมีคำแนะนำให้ฝึกงานเพิ่มเติมได้จากคณะกรรมการสอบสัมภาษณ์

    Q: ฝึกปฏิบัติงานทางคลินิก 500 ชั่วโมง ที่ไหนได้บ้าง

    A: สามารถฝึกงานได้ที่คลินิก โรงพยาบาล หรือสถานประกอบการที่มีการบริการทางกายภาพบำบัดเฉพาะทางที่เลือกศึกษา ทั้งนี้ผู้ได้รับการคัดเลือกเข้ารับศึกษาในหลักสูตร สามารถทำเรื่องเพื่อขอฝึกปฏิบัติงานทางคลินิกที่ศูนย์กายภาพบำบัด คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล แต่อย่างไรก็ตาม ต้องได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการบริหารศูนย์กายภาพบำบัด คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล

    Q: เนื้อหาและความรู้ ที่ควรทบทวนมาก่อนเริ่มเรียน

    A: ความรู้ทางด้านกายวิภาคศาสตร์ สรีรวิทยา พยาธิสรีรวิทยา ชีวกลศาสตร์ และทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการสืบค้น ทำรายงาน และนำเสนอ

    Q: ทักษะภาษาอังกฤษ มีความจำเป็นในการเรียนประกาศนียบัตรบัณฑิต สาขากายภาพบำบัดคลินิกที่เป็นหลักสูตรไทยหรือไม่

    A: ทักษะภาษาอังกฤษมีความจำเป็น เนื่องจาก รูปแบบการเรียนจะต้องการค้นคว้าและอ่านบทความงานวิจัยที่เป็นภาษอังกฤษ และมีการนำเสนอเป็นภาษาอังกฤษในบางรายวิชา ทั้งนี้หลักสูตรมีรายวิชาภาษาอังกฤษสำหรับนักกายภาพบำบัดเป็นรายวิชาเลือกให้ลงเรียนเพื่อเพิ่มพูนทักษะภาษาอังกฤษระหว่างเรียนได้

    Q: หากมีผลการทดสอบภาษาอังกฤษไม่เป็นไปตามเกณฑ์มาตราฐานความรู้ภาษาอังกฤษสำหรับสำเร็จการศึกษา จะต้องทำอย่างไรบ้าง

    A: นักศึกษาที่มีผลการทดสอบภาษาอังกฤษไม่เป็นไปในเกณฑ์ที่บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดลกำหนด สามารถเลือกทดสอบความรู้ภาษาอังกฤษจนกว่าจะผ่านเกณฑ์มาตราฐานความรู้ภาษาอังกฤษ หรือลงทะเบียนเรียนรายวิชาภาษาอังกฤษที่บัณฑิตวิทยาลัยกำหนดให้ และสอบผ่านรายวิชาดังกล่าวก่อนการขอสอบวิทยานิพนธ์หรือสารนิพนธ์ โดยสามารถดูรายวิชาที่ต้องลงทะเบียนเรียนได้ที่ https://graduate.mahidol.ac.th/download/current-student/language-center/EnglishCompetenceStandards2020-th.pdf

    Q: ทุนและการทำงานเสริมนอกเวลาเรียน

    A: ในระหว่างที่กำลังศึกษาอยู่ในหลักสูตร นักศึกษาสามารถทำงานนอกเวลาในสถานประกอบการกายภาพบำบัดต่างๆ ได้ หรือทำงานนอกเวลา (part time) ที่ศูนย์กายภาพบำบัด คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดลได้ เมื่อนักศึกษาเรียนอยู่ในภาคการศึกษาที่ 2 ซึ่งต้องทำเรื่องเพื่อขอปฏิบัติงานนอกเวลาที่ศูนย์กายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล โดยจะได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการบริหารศูนย์กายภาพบำบัด

    Q: หากลงเรียนในรูปแบบ MAP-C หรือ Microcredit มาแล้ว สามารถเก็บผลการศึกษาไว้ได้กี่ปีเพื่อจะนำมาเทียบโอนเมื่อเข้าศึกษาต่อในหลักสูตร

    A: สามารถนำผลการศึกษาในรูปแบบ MAP-C และ Microcredit มาเทียบโอนได้ภายใน 5 ปี ตามวงรอบการปรับปรุงหลักสูตร เช่น ประกาศนียบัตรบัณฑิต สาขากายภาพบำบัดคลินิก ปรับปรุงปี 2565 หากลงเรียนในรูปแบบ MAP-C หรือ Microcredit สามารถเก็บผลการศึกษามาใช้สำหรับเทียบโอนเข้าศึกษาได้ถึงปีการศึกษา 2569 หากเกินจากนั้นจะต้องนำผลการศึกษาให้คณะกรรมการพิจารณาและทำการทดสอบความรู้เพื่อการเทียบโอน

    Q: ประมาณการค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต สาขากายภาพบำบัดคลินิก

    ค่าใช้จ่าย 1800 บาท ต่อ หน่วยกิต และค่าบำรุงการศึกษา 2 ภาคการศึกษา 13000 บาท ประมาณการ 25 หน่วยกิต และค่าบำรุงการศึกษา เท่ากับ 58000บาท ทั้งนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าธรรมเนียมบางประเภท

    อาจารย์ประจำหลักสูตร
    1. ผศ.ดร.กภ. คีรินท์ เมฆโหรา (ประธานหลักสูตร)
    2. รศ.ดร.กภ. จารุกูล ตรีไตรลักษณะ
    3. รศ.ดร.กภ. ชุติมา ชลายนเดชะ
    4. รศ.ดร.กภ. พีร์มงคล วัฒนานนท์
    5. รศ.ดร.กภ. มัณฑนา วงศ์ศิรินวรัตน์
    6. รศ.ดร.กภ. รุ่งทิวา วัจฉละฐิติ
    7. รศ.ดร.กภ. วรรธนะ ชลายนเดชะ
    8. รศ.ดร.กภ. วิมลวรรณ เหียงแก้ว
    9. รศ.ดร.กภ. สุนีย์ บวรสุนทรชัย
    10. รศ.ดร.กภ. ประเสริฐ สกุลศรีประเสริฐ
    11. ผศ.ดร.กภ. ผกามาศ พิริยะประสาธน์
    12. ผศ.ดร.กบ. พีรเดช ธิจันทร์เปียง
    13. ผศ.ดร.กภ. เพชรรัตน์ ภูอนันตานนท์
    14. ผศ.ดร.กภ. ภครตี ชัยวัฒน์
    15. ผศ.ดร.กภ. ระวีวรรณ เล็กสกุลไชย
    16. ผศ.ดร.กภ. วนาลี กล่อมใจ
    17. ผศ.ดร.กภ. วรินทร์ กฤตยาเกียรณ
    18. ผศ.ดร.กบ. ศุภลักษณ์ เข็มทอง
    19. รศ.ดร.กภ. สายพิณ ประเสริฐสุขดี
    20. ผศ.ดร.กภ. จตุพร สุทธิวงษ์
    21. ผศ.ดร.กภ. คมศักดิ์ สินสุรินทร์
    22. ผศ.ดร.กภ. ทิพย์วดี บรรพระจันทร์
    23. ผศ.ดร.กภ. นันทินี นวลนิ่ม
    24. อ.ดร.กภ. เบญจพร เอนกแสน
    25. อ.ดร.กภ. เฟื่องฟ้า ขอบคุณ
    26. อ.ดร.กภ. รัชนก ไกรวงศ์
    27. อ.ดร.กภ. วรรณเพ็ญ จันทร์ศิรินุเคราะห์
    28. ผศ.ดร.กภ. เวทสินี แก้วขันตี
    29. อ.ดร.กภ. สิริกาญจน์ สมประสงค์
    30. ผศ.ดร.กบ. สุธินันท์ จันทร
    31. อ.ดร.กบ. สุรชาต ทองชุมสิน
    32. อ.ดร.กภ. สุวีณา ค้าเจริญ
    33. อ.ดร.กภ. จุฑามาศ สุระพงษ์ชัย
    34. อ.ดร.กบ. ฐิติยา วังกาวรรณ์